โลตัส มีนบุรี นำร่องเป็น 1 ใน 14 จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกรุงเทพฯ พร้อมเสนอให้ใช้สาขาใหญ่อีก 50 สาขา ปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
โลตัส ผนึกความร่วมมือภาคเอกชน ร่วมคณะทำงาน “ทีมไทยแลนด์” บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน สนับสนุนการกระจายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนทั่วประเทศ โดยโลตัส สาขามีนบุรี นำร่องเป็น 1 ใน 14 สถานที่ในกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นจุดฉีดวัคซีน สามารถรองรับประชาชนได้ 1,000 คนต่อวัน พร้อมเสนอสาขาใหญ่อีก 50 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวก นอกจากนั้น โลตัส ยังอยู่ในคณะทำงานทีมสื่อสารร่วมกับองค์กรชั้นนำอื่น ๆ เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “โลตัส ได้เสนอพื้นที่ 50 สาขาทั่วประเทศเป็นสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่งสาขาขนาดใหญ่ของเรามีความพร้อมและเหมาะสม เพราะมีพื้นที่กว้างขวางทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทำให้สามารถบริหารจัดการไม่ให้มีความแออัด นอกจากนั้น ยังเดินทางมาสะดวก รวมทั้งเรายังมีเพื่อนพนักงานที่สามารถให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ โดยในเบื้องต้น โลตัส สาขามีนบุรี ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 14 สถานที่สำหรับนำร่องฉีดวัคซีนในกรุงเทพมหานคร คาดว่าจะสามารถเริ่มต้นดำเนินการได้ในเดือนมิถุนายนนี้ นอกเหนือจากคณะทำงานทีม A สนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีนแล้ว โลตัส ยังสนับสนุนคณะทำงานทีม B เพื่อใช้สื่อและช่องทางของเราทั้งออนไลน์และในสาขาทั่วประเทศช่วยสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนให้กับลูกค้าและประชาชนอีกด้วย”
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว โลตัส ยังได้ให้การช่วยเหลือลูกค้า ประชาชน และชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
• ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขยายเวลาแคมเปญราคามหาชน ตัดและตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อค่าครองชีพ 180 รายการ จนถึง 30 มิถุนายน 2564 ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าอาหารสด และอาหารพร้อมทาน นำมาตัดและตรึงราคา ที่โลตัสสาขาใหญ่และสาขาเล็กกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ และโลตัส ช้อปออนไลน์ เพื่อช่วยลดภาระ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่นี้
• บริจาคสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาล ชุมชน และจุดคัดกรองกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และเปิดตัวโครงการ “สะพานบุญ” ให้ลูกค้าและประชาชนผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาคสิ่งของให้โรงพยาบาลสนามได้ โดยสั่งสินค้าออนไลน์ผ่านโลตัส และจัดส่งฟรีให้กับโรงพยาบาลสนามทุกวัน
• ร่วมมือกับ SCGP เปิดจุดรับกล่องและลังกระดาษในโลตัส สาขาใหญ่ทุกสาขา เพื่อนำมารีไซเคิลเป็นเตียงสนามกระดาษ SCGP นำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ
• เพิ่มปริมาณการรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้าได้
• สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จัด “มุมสินค้า SME ไทย ถูกใจมหาชน” ในสาขา เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพ นอกจากนั้น ยังเตรียมจัด SME online business matching ทุกเดือน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME เจรจาการค้าโดยตรงกับทีมงานโลตัส เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์
“เรามีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปได้ด้วยกัน” นายสมพงษ์ กล่าวสรุป