พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ สอน “สุขที่แท้” บนเวทีธรรมบรรยาย เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ
ในปัจจุบันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย มีผู้ประสบภัยอย่างล้นหลาม ทุกคนเจอปัญหาที่ทุกข์ยากลำบาก ปัญหาเหล่านี้ทำให้คนเป็นทุกข์ พร้อมกับความสุขที่หายไป ความสุขของทุกคนคืออะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นสุขหรือทุกข์ จะทำอย่างไรให้ชีวิตกลับมาสุข พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ได้เมตตาให้คำตอบบนเวทีธรรมบรรยาย เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ จัดโดย บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ในหัวข้อ “สุขที่แท้”
“ทุกข์ทุกข์ทุกข์ สุขสุขเย็นซ่อนเร้นอยู่ ทุกข์สุขรู้ มีทุกข์อยู่ดูให้เห็น ทุกข์ทุกข์สุขสนุกแท้แม้ดูเป็น สุขทุกข์เห็นสุขทุกข์เป็นเห็นชีวิต” ถ้าเห็นแล้วเข้าใจชีวิต จะได้ความสุข แต่ถ้าเห็นทุกข์ จะเข้าถึงธรรม จึงมีคำถามว่า “ทำไรอย่างชีวิตนี้ถึงจะมีความสุข” ในทางธรรมที่สามารถเข้าถึงธรรมได้อย่างแท้จริงนั้น “ไม่มีหรอกชีวิตที่ไปผูกพันยุ่งเกี่ยวอะไรแล้วจะไม่มีทุกข์” พระมหาธนเดชกล่าว
พระอาจารย์ได้เล่าเรื่องหนึ่งในขณะที่ท่านกำลังนั่งเขียนหนังสือพร้อมมองผู้คนสัญจรไปมาที่ศาลาหลวงพ่อดวงดี วัดสระเกศ หรือวัดภูเขาทอง วันหนึ่งขณะที่นั่งอยู่ก็มีรถเก๋งวนรอบภูเขาทองสองรอบ ท่านได้เอะใจถึงรถคันนี้วนหาอะไรหรือ ปรากฏรถคันนั้นได้จอดพร้อมมีผู้ชายวัยประมาณ 30 ต้น ๆ ถือของเครื่องสังฆทานเดินมาที่พระอาจารย์ด้วยหน้าตาที่เศร้าหมองพร้อมกับพูดประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ว่า “หลวงพี่ครับผมอยากทำบุญ” พระอาจารย์ได้กล่าวเจริญพรเชิญทางด้านใน นั่งอยู่ต่อหน้าองค์พระ จึงให้ไหว้พระรับศีล ถวายสังฆทาน พอให้พรเสร็จปรากฏว่าผู้ชายคนนี้ ไม่หือไม่อือไม่ลุกไม่อะไรทั้งสิ้น นั่งก้มหน้าพนมมือเศร้า ๆ พระอาจารย์ได้พูดประโยคหนึ่งว่า “เกิดมาเป็นคนนี้โชคดี ยิ่งใครเกิดมาอาการครบ 32 มีสุขภาพร่างกาย มีหูมีตาโดยเฉพาะเรา มีตาสามารถมองไปทุกสิ่งทุกอย่างรอบด้าน เรายังให้ความรักกับสิ่งโน้นสิ่งนี้ แต่คนเราก็แปลก มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างหมด แต่เราไม่สามารถมองเห็นตัวเองและให้ความรักกับตัวเองได้” เมื่อท่านได้กล่าวจบ ชายผู้นั้นถึงกับร้องไห้ออกมา พร้อมกับเปรยประโยคหนึ่งว่า “เพราะชีวิตผมไม่เหลืออะไรแล้ว ชีวิตผมไม่เหลืออะไรแล้ว การทำบุญในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายชีวิตของผมแล้ว หลวงพี่คือคนสุดท้ายที่จะได้คุยกับผมในวันนี้” เมื่อชายคนนี้ได้กล่าวจบลง ทำให้พระอาจารย์ทราบได้ว่าชายผู้นี้จะฆ่าตัวตาย เพราเรื่องร้ายที่เขาเจอมาหนักหนายิ่งนัก เขากำลังจะแต่งงานกับแฟนในอีก 4 เดือน กู้หนี้ยืมสินมาเป็นล้าน ผิดหวังกับความรัก กำลังจะแต่งงาน ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง แต่โดนผู้หญิงหลอก พระอาจารย์ได้บอกกับชายผู้นั้นไปว่า “โยมคงรักใครไม่ได้หรอก แล้วอย่าไปหวังว่าใครจะมารักโยม ลำพังตัวโยมเอง โยมยังรักตัวเองไม่ได้ แล้วใครจะมารักโยม” เมื่อได้ฟังประโยคนี้แล้วนั้นชายผู้นี้จึงมีความคิดล้มเลิกการฆ่าตัวตายลงในวันนั้น เพราะกับความคิดที่ได้จากพระอาจารย์ “หากชีวิตของคุณไม่เหลือใคร ให้เก็บหัวใจไว้รักตัวเอง”
เหนือทุกข์คือธรรม คนเราถ้าไม่เห็นทุกข์ จึงเป็นที่มาที่พระอาจารย์ได้เกริ่นตั้งแต่ตอนต้นว่า ทุกข์ทุกข์ทุกข์ ทุก ๆ ความทุกข์มันสุข ซุกความสุขอยู่ในนั้นซ่อนเร้นอยู่ ๆ ที่ว่าใครจะเห็นมัน ทุกทุกข์ สุขสนุกแท้ดูเป็น ถ้าเข้าใจ ถ้าค่อย ๆ ไตร่ตรองมีข้ออรรถข้อธรรมในการพินิจพิจารณาสั่งสมให้เกิดเป็นมรรคเป็นผล ก็จะไม่ทุกข์มาก ไม่ลำบากมากในการครองจิตครองใจ
ในชีวิตของเรานี่อย่าลืมว่ามีอยู่ 2 ส่วนคือ กาย กับ ใจ ฉะนั้นแล้ว ความสุข คืออะไร ความสุขของแต่ละคนแตกต่างกัน สุขของเด็กเพียงได้เล่นก้อนหินหรือเอาไม้มาเขี่ยดินก็สุขแล้ว สุขของวัยรุ่นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ความสุขของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน ฉะนั้นคำถามที่ว่า ความสุขคืออะไร ต้องถามต่อว่า คำถามนี้เอาไปถามเด็ก คนแก่ หรือผู้ใหญ่ จึงจะตอบได้ว่าความสุขของคุณคืออะไร ความสุขของเขากับเราไม่เหมือนกัน กองอุจจาระที่ว่าเหม็น แมลงวันตอม ยังหอมอยู่ ถ้าไม่หอมคงไม่ไปตอมขนาดนั้น หากชายผู้นี้ไม่คิดรักตัวเองความสุขก็จะไม่เกิด แต่หากเขารักและอยู่กับตัวเองนั้นอาจเป็นความสุขที่แท้ของเขาก็ได้
ทั้งนี้ ความสุข คือ ความพอใจ พอใจกับสิ่งใดจะมีความสุขเพราะพอใจกับสิ่งนั้น แล้วอะไรหรือคือความพอใจ ความพอใจก็คือการยอมรับ ความยอมรับคืออะไร ก็คือเข้าใจ แล้วความสุขที่แท้จริง คืออะไร พระอาจารย์ได้เล่าเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งว่า ชีวิตช่วงนี้ของเธอโอเคมาก กิจการงานต่าง ๆ ก็เจริญก้าวหน้า เงินเดือนก็เหลือกินเหลือใช้ สามีก็เป็นคนดีมาก ชีวิตเธอช่างดีเหลือเกิน 2 อาทิตย์ต่อไปตรวจสุขภาพ หมอบอกว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายนะอยู่ได้อีกไม่นาน ที่โอเคมาก ยังจะโอเคอยู่ไหม คำถามคือความสุขที่แท้อยู่ตรงไหน คำตอบคือ มันไม่มี เพราะธรรมมะคือความไม่แน่ การไม่ประมาทในการใช้ชีวิต พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี สร้างบุญสร้างบารมีให้ชีวิต
และความหวังก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับในยุคนี้สมัยนี้ ถ้าชีวิตปราศจากสิ้นเสียแล้วซึ่งความหวัง ก็ไม่แตกต่างอะไรจากคนที่ตายแล้ว ความหวังจึงเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต ความหวังเป็นเจตนา เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่หล่อเลี้ยงใจหล่อเลี้ยงกาย ชีวิตจึงมีคำตอบ ชีวิตจึงอยู่ได้ด้วยความหวัง ฉะนั้นเรื่องของ สุขที่แท้ ก็เพื่อที่จะสั่งสมจิตใจข้ออรรถข้อธรรมในการมองสิ่งต่าง ๆ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยรอบ ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนด้วยความตั้งมั่นแห่งจิตใจ สิ่งนี้ก็จะนำพาความสุขความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชีวิต พระมหาธนเดชกล่าว
สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดี ๆ ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” สามารถติดตามรับชมย้อนหลังผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL พร้อมรับฟังคติธรรมดี ๆ ในช่องทาง TikTok ได้ที่ ธรรมะ TikTok และจะประชาสัมพันธ์วันที่ และเวลา ที่โครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ กลับมาจัดเป็นปกติอีกครั้งให้ทราบในโอกาสถัดไป
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย