แนะเทคนิคปลูกพืชคู่ “พริกหนุ่มขาว-ผักกาดหัว” ใช้พื้นที่คุ้มค่า เพิ่มผลิตผล เพิ่มกำไร ตลาดนิยม
กรุงเทพฯ 6 กันยายน 2564 – พืชผักอย่างพริกหนุ่มและผักกาดหัว ถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่หลายคนให้ความสนใจและนิยมปลูกกันมากในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยขนาดผลิตผลที่ตอบโจทย์ตลาด ราคาที่คงที่ รวมไปถึงความแข็งแรงของต้น นับว่าเป็นพืชผักที่ปลูกแล้วคุ้มค่ากับการลงทุน เป็นที่ถูกใจของเกษตรกร และผู้บริโภคต่างนิยมรับประทาน และช่วงนี้เข้าสู่หนึ่งในฤดูเพาะปลูกพริกหนุ่มขาวและผักกาดหัว โดยเฉพาะในพื้นที่หลักอย่างอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาที่เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกพืชหลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้มีการหมุนเวียนและสามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลได้ตลอดฤดูกาลเพาะปลูก นับว่าเป็นวิธีการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งผู้ที่มาจะแบ่งปันประสบการณ์เทคนิคการปลูกพืชคู่ “พริกหนุ่มขาว-ผักกาดหัว” ให้ประสบความสำเร็จ กำไรงาม คือ เฮียเชน หรือนายกิตติศักดิ์ กิตติวุฒิเจริญกุล เกษตรกรในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ผู้มีประสบการณ์การเพาะปลูกมากว่า 10 ปี บนพื้นที่มากกว่า 50 ไร่ ที่จัดสรรการปลูกผักกาดหัวพันธุ์เอเวอร์เรสท์เป็นหลักประมาณ 40 ไร่ พริกหนุ่มขาวหยกเทพ 5 ไร่ และที่เหลือจะเป็นผักตามฤดูกาลสลับกันไป
เฮียเชนเล่าถึงประสบการณ์ปีแรกในการปลูกพริกหนุ่มขาวสายพันธุ์หยกเทพบนพื้นที่กว่า 5 ไร่ จำนวนมากกว่า 18,000 ต้น ว่า “เมื่อก่อนผมจะปลูกแต่ผักกาดหัวเอเวอร์เรสท์ กะหล่ำดอก และผักตามฤดูกาล เพิ่งมาเริ่มต้นปลูกพริกหนุ่มขาวพันธุ์หยกเทพเป็นปีแรกจากคำแนะนำของคนในพื้นที่ ซึ่งปลูกแล้วได้รับการตอบรับที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาด ราคา สี และความแข็งแรงของต้น ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนเพราะเป็นสายพันธุ์ที่ดีมาก ปกติผมจะเก็บพริกหนุ่มขาวหยกเทพทุกวันส่งเข้าตลาดสี่มุมเมือง วันละ 1-2 ตัน พร้อมกันกับพืชผักอื่นๆ ที่ปลูก พริกหนุ่มขาวหยกเทพเป็นที่ต้องการของตลาดมาก มีลูกค้าจองเข้ามาตลอด โดยผมจะแพ็คใส่ถุงละ 10 กิโลกรัม และถึงแม้จะไม่ได้เรียงผลให้สวยงาม แต่ก็เห็นได้ชัดถึงขนาดผลที่ใหญ่กว่าและสีผลที่สวยกว่าพริกหนุ่มขาวสายพันธุ์อื่นๆ ในท้องตลาด เลยตัดสินใจปลูกพริกหนุ่มขาวหยกเทพมาตลอด”
วิธีการปลูกพริกหนุ่มขาวหยกเทพให้ได้ผลิตผลสูง ทรงสวย ตลาดต้องการ
การเตรียมแปลง
• ในระยะแรก ต้องเร่งให้พุ่มของพริกหนุ่มขาวหยกเทพมีขนาดทรงใหญ่ ให้ต้นสูง เพื่อให้กิ่งแตกก้านเยอะ และจะทำให้การออกผลเยอะขึ้น
• ระยะปลูก ใช้ระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถวที่ 50 x 50 ซม. เมื่อเตรียมแปลงและขุดหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก หรืออาจใส่สารป้องกันกำจัดแมลงลงไปด้วยเพื่อป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช เสร็จแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากับดินก้นหลุม
• การเตรียมแปลง ถ้าหากดินมีความเป็นกรดมากๆ ควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพของดินให้เหมาะสมต่อการปลูกพริกด้วย
การปักค้าง
• การปลูกพริกหนุ่มขาวหยกเทพต้องปักค้าง เพื่อช่วยพยุงกิ่งและต้นไม่ให้หักเสียหาย โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นพริกติดผล และควรทำก่อนพริกออกดอก โดยอาจปักไม้ค้างทุกต้นแล้วมัดโยงแต่ละกิ่ง หรืออาจใช้เชือกดึงตามความยาวของแปลงเพื่อพยุงกิ่งไม่ให้หัก ซึ่งสามารถทำได้ทั้งปักค้างทุกต้น และปักค้างทั้งแถวตามความยาวแปลงขึ้นอยู่กับความต้องการ
การใส่ปุ๋ย
• ระยะเพาะกล้า 0-25 วัน : ใส่ปุ๋ยเม็ดทางดินรองพื้นก่อนลงปลูก สูตร 15-15-15 และ 20-25 กิโลกรัมต่อไร่
• ระยะหลังย้ายกล้า 5-7 วันหลังย้ายกล้าหรือระยะบำรุงใบ : ใช้ปุ๋ย 16-16-16 บลู 30-50 กิโลกรัมต่อไร่ กรณีใส่ปุ๋ยร่วมกับระบบนํ้าหยดจะให้ปุ๋ยวันเว้นวัน
• ระยะหลังย้ายปลูก 15-20 วันหลังย้ายกล้า หรือระยะบำรุงดอก : ให้ใช้ปุ๋ยสูตร 9-25-25 ในปริมาณ 20-30 กิโลกรัมต่อไร่ โดยเจาะหลุมระหว่างต้นพริก กรณีใส่ปุ๋ยร่วมกับระบบนํ้าหยดจะให้ปุ๋ยวันเว้นวัน
• ระยะพริกเริ่มติดผล 50-60 วันหลังย้ายกล้า หรือระยะบำรุงผลผลิต : ใส่ปุ๋ย 13-13-24 ปริมาณ 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ กรณีใส่ปุ๋ยร่วมกับระบบนํ้าหยดจะให้ปุ๋ยวันเว้นวัน
• ระยะเก็บเกี่ยวผลิตผล 60-75 วัน : เมื่อเริ่มเก็บผลิตผลให้พิจารณาใส่ปุ๋ยตามความเหมาะสมโดยใช้ 16-16-16 บลู สลับกับ 13-13-24 หรือ 15-9-20 ใช้ 16-16-16บลู เมื่อต้นเริ่มโทรม
• หลังจากเก็บผลิตผล ให้ใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-24 หรือ 15-9-20 เมื่อต้นมีใบสมบูรณ์เพื่อที่จะสร้างผลิตผล
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญของเฮียเชนในการปลูกพริกหนุ่มขาวหยกเทพ คือ การให้น้ำแบบสปริงเกลอร์ (Sprinkler) โดยปกติบางคนจะให้เป็นระบบน้ำหยด แต่เฮียเชนเล่าว่า “การให้น้ำแบบสปริงเกลอร์ดีกว่าระบบน้ำหยด เพราะจะช่วยล้างใบ ล้างยอด หากต้นมีแมลงก็จะกำจัดแมลงออกได้ และสามารถช่วยลดการเกิดโรคลง ที่สำคัญจะเพิ่มความชื้นในดิน ทำให้น้ำระเหยช้าลง โดยจะรดน้ำ 2 ครั้งต่อวัน ช่วงสายและช่วงบ่าย”
ทุกวันเฮียเชนจะตรวจและดูแลแปลงพริกหนุ่มขาวหยกเทพอย่างสม่ำเสมอว่ามีโรค มีแมลงหรือไม่ รวมไปถึงการถอนหญ้าและวัชพืชที่โคนต้นเพื่อลดการเกิดโรค แต่การเลือกเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีอย่างพริกหนุ่มขาวสายพันธุ์หยกเทพ ของเจียไต๋ ก็มีส่วนช่วยได้มาก เพราะเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทนทานต่อโรคได้ดี และสามารถเก็บเกี่ยวได้นาน โดยที่ผลิตผลยังคงคุณภาพดีในทุกครั้งที่เก็บเกี่ยวจึงเป็นที่ต้องการของตลาด ที่สำคัญคือต้นแข็งแรงมาก ซึ่งโดยปกติสายพันธุ์อื่นๆ ต้นจะมีขนาดประมาณเข่า แต่พริกหนุ่มขาวหยกเทพขนาดต้นสูงถึงเอว ซึ่งทำให้มีผลิตผลที่สูง ติดผลดกขึ้น และยังมีสีสวย เนื้อแน่น ทนทานต่อการขนส่งอีกด้วย
นอกเหนือจากพริกหนุ่มขาวคุณภาพที่ตลาดต้องการอย่างสายพันธุ์หยกเทพแล้ว เฮียเชนยังได้แบ่งปันวิธีและเคล็ดลับการปลูกผักกาดหัวเอเวอร์เรสท์ให้ได้หัวใหญ่ เนื้อแน่น ฟ่ามช้าแบบที่ตลาดต้องการ ซึ่งเป็นผักกาดหัวที่หมุนเวียนปลูกอยู่ตลอดในพื้นที่กว่า 40 ไร่ เพื่อให้มีผลิตผลออกทุกวันตลอดฤดูกาลการเพาะปลูก
การเตรียมแปลง
• ยกร่องกว้าง 1.2 เมตร สูง 30 เซนติเมตร : เว้นทางเดินระหว่างร่อง 50 เซนติเมตร
• หยอดเมล็ด 1 เมล็ดต่อ 1 หลุม : โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 20 เซนติเมตร และรดนํ้าพอประมาณ ในบางที่อาจคลุมฟางเพื่อรักษาความชื้น
การให้น้ำ
• ควรให้นํ้าอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งเพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้นหรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
• ไม่ควรให้ผักกาดหัวขาดนํ้าเพราะจะทำให้หัวเติบโตไม่สมบูรณ์ คุณภาพไม่ได้ตามความต้องการของตลาด
เคล็ดลับสำคัญในการปลูกผักกาดหัวลูกผสมสายพันธุ์เอเวอร์เรสท์คือ สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ โดยดินต้องมีลักษณะที่ร่วนโปร่งหรือดินร่วนปนทราย ไม่ควรปลูกในดินที่เหนียวมากเพราะดินที่มีความแข็งจะทำให้ผักกาดหัวไม่สามารถลงหัวได้ดี นอกจากนี้ ผักกาดหัวต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน และควรมีความชื้นในดินที่เหมาะสม สำหรับสภาพอากาศที่เหมาะสมที่สุดคือช่วง 18-25 องศาเซลเซียส หรือในฤดูหนาว เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่ผักกาดหัวเอเวอร์เรสท์โตไว ปลูกง่าย และให้ผลิตผลสวยที่สุด
เฮียเชน ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ของผักกาดหัวเอเวอร์เรสท์ที่เป็นถุงซิปล็อค ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น ทั้งเมล็ดพันธุ์มีคุณภาพดี ให้ผลิตผลที่สวยขึ้น คุณภาพดีสม่ำเสมอ เนื้อแน่นกว่าน้ำหนักดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ปลูกสายพันธุ์เจียไต๋ไม่ผิดหวังไม่ว่าจะเป็น พริกหนุ่มขาวหยกเทพ หรือ ผักกาดหัวเอเวอร์เรสท์ รับรองว่าตอบโจทย์ตลาด และได้ผลิตผลที่สวยงามมีคุณภาพแน่นอนครับ”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์เจียไต๋และข้อมูลเกษตรอื่นๆ ได้ทาง Facebook: เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ www.facebook.com/chiataiseed แอดไลน์ @chiataiseed และเว็บไซต์เจียไต๋ www.chiataigroup.com
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย