ยิ่งให้ ยิ่งได้… เสียงขอบคุณจากชุมชน ถึงจิตอาสาซีพีเอฟ ‘ครัวปันอิ่ม’ ปันรอยยิ้มสู่สังคมไทย
เป็นระยะเวลา 2 เดือน ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มูลนิธิต่างๆ และพันธมิตรมากกว่า 100 องค์กร ผนึกกำลังดำเนินโครงการ “ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” เพื่อแจกจ่ายข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมรับประทาน จำนวน 2 ล้านกล่อง แก่ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้ร้านอาหารรายย่อยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม จนคณะกรรมการคัดเลือกร้านที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากกว่า 1,400 ร้าน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความอิ่มอร่อยจำนวน 1 ล้านกล่อง และอีก 1 ล้านกล่อง เป็นการสมทบอาหารจากซีพีเอฟ ซึ่งปรุงสุกใหม่ทุกวัน สด สะอาด ถูกหลักโภชนาการ โดยเครือข่ายจิตอาสา ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน รวมทั้งชาวชุมชน ระดมน้ำใจเป็นสะพานบุญแจกจ่ายข้าวกล่อง เพื่อแบ่งปันความอร่อยให้ถึงมือประชาชน
โครงการครัวปันอิ่มฯ จะเดินหน้าไม่ได้ หากขาดกำลังสำคัญอย่างตัวแทนชุมชน ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อน “ครัวปันอิ่ม” ร่วมกับจิตอาสาซีพีเอฟ พากล่องข้าวเล็กๆ และหน้ากากอนามัยไปส่งพร้อมกับกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้ถึงมือของชาวบ้านอย่างทั่วถึงมากที่สุด
นายสมาน พุฒเพ็ง ประธาน อปพร.เขตหนองจอก และประธานชุมชนพัฒนาลำต้นไทร กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้ ชาวบ้านในชุนชนพัฒนาลำต้นไทรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก บางคนตกงาน รายได้จากร้านค้าลดลง จนแทบไม่มีรายได้เลย เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เราจึงต้องบริหารจัดการกันเอง ตั้งเป็นศูนย์พักคอย รวมถึงสถานที่กักตัว เพื่อบล็อกโซนไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวางกว้าง
“ชุมชนแห่งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากเครือซีพีและซีพีเอฟมาโดยตลอด ตั้งแต่ปีแรกมีการแพร่ระบาด จนกระทั่งเป็นโครงการครัวปันอิ่มฯ นำข้าวกล่อง เครื่องดื่ม รวมถึงหน้ากากอนามัย มาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีจริงๆ ที่คิดถึงชุมชนของพวกเรา อย่างน้อยอาหารเหล่านี้ก็เสมือนกำลังใจจากหน่วยงานต่างๆ ที่เห็นถึงความเดือดร้อน และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในวิกฤตนี้” นายสมาน กล่าว
ขณะที่ พระมหาทวี โพธิเมธี เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี เล่าวว่า บริเวณชุมชนรอบๆ วัดได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่แออัด ผู้คนอาศัยหนาแน่น ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสต่อกันได้ง่าย ทางวัดจึงตั้งเป็นศูนย์กลางของชุมชน เพื่อให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านที่เดือดร้อน โดยมีโครงการครัวปันอิ่มฯ ของเครือซีพีและซีพีเอฟ รวมถึงภาคีเครือข่ายต่างๆ นำข้าวกล่องมาสนับสนุน อาตมาจึงจัดแบ่งตามความเหมาะสมกระจายออกไปรอบๆ ประมาณ 14 ชุมชน ทุกครั้งที่พวกเขาได้รับอาหาร สัมผัสได้ว่า พวกเขามีความสุข เด็กเล็กรีบวิ่งออกมารับ จนเป็นภาพชินตา นับว่าสุขใจผู้ให้ด้วย เพราะ 1-2 เดือนที่ผ่านมา หลายคนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ข้าวหนึ่งกล่อง นอกจากจะเติมพลังกายแล้ว ยังเป็นพลังใจหล่อเลี้ยงพวกเขาเช่นกัน
“ทุกๆ วัน พระและสามเณรที่ประจำวัดจะร่วมกันทำถุงยังชีพ พร้อมแจกจ่ายแก่ชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง ประกอบด้วยสิ่งของอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น เพื่อให้พวกเขาประทังชีวิตต่อไปได้ หากผู้ใดสนใจอยากร่วมสมทบข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมันพืช หรือเครื่องปรุงประกอบอาหาร สามารถติดต่อมาทางวัดพุทธปัญญา” พระมหาทวี โพธิเมธี กล่าว
นอกจากเสียงสะท้อนจากตัวแทนชุมชนแล้ว อีกหนึ่งส่วนสำคัญของโครงการครัวปันอิ่มฯ ที่ขาดไม่ได้คือ พลังจิตอาสาซีพีเอฟ ที่สมัครใจร่วมภารกิจแบ่งปันความอิ่ม เติมรอยยิ้ม และสร้างความสุขประจำจุดแจกอาหารในพื้นที่ต่างๆ ในทุกๆ วัน
น.ส.ณปภัช อินทรแสง จิตอาสาประจำจุดดินแดง เล่าว่า สถานการณ์บ้านเมืองหลังจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือว่าวิกฤตมาก ถ้ามีโอกาสอยากเข้าไปช่วยเหลือ แม้ว่าการที่ลงพื้นที่แต่ละครั้งอาจมีความเสี่ยง จึงต้องสำรวมตัวเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ป้องกันตัวเองมากที่สุด อย่างน้อยการนำอาหารไปแจกจ่ายสามารถเติมบางส่วนในบางมื้อ ทำให้พวกเขาสามารถอยู่ได้ แต่มากกว่านั้นคือ คำอวยพรที่ทุกท่านตอบกลับมาพวกเราจิตอาสาเสมอ มันเป็นสิ่งที่ช่วยเติมกำลังใจของกันและกัน
นายวิวัฒน์ เครือดวงคำ จิตอาสาประจำจุดสำนักงานเขตหนองจอก เปิดเผยว่า ปัจจุบันทำงานอยู่ที่โรงงานอาหารสำเร็จรูป หนองจอก ซึ่งได้รับข่าวสารความเดือกร้อนของคนในชุมชนต่างๆ สม่ำเสมอ พอมีโอกาสเข้ามาเป็นจิตอาสา จึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระอย่างเต็มที่ จากการลงพื้นที่เราได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้าน แม้จะเป็นเพียงอาหาร 1 มื้อ แต่ทุกความประทับใจที่พบเจอจะอยู่กับเราไปอีกนาน รวมถึงหลายคำขอบคุณที่ส่งต่อไปยังผู้ใหญ่ใจดี อย่างเครือซีพีและซีพีเอฟ ที่มีส่วนผลักดันให้เกิดโครงการดีๆ แบบนี้ เรารู้ทันทีว่า การช่วยเหลือในครั้งนี้มีความหมายกับพวกเขาแค่ไหน
ด้าน น.ส.อัจนา รัตนคำแปง จิตอาสาประจำจุดโรงเรียนวัดสุวรรณาราม กล่าวว่า การมาเป็นจิตอาสาได้ลงพื้นที่เจอพ่อแม่พี่น้องในชุมชน เห็นถึงความยากลำบากและปัญหาที่พวกเขาเผชิญ เช่น การทำงานที่หยุดชะงัก ไม่มีรายได้ แต่ยังมีครอบครัวที่ต้องดูแลและรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ตอนได้รับข้าวกล่องทุกคนตื่นเต้นดีใจ แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่คำขอบคุณที่ส่งกลับมา ทำให้รู้สึกหัวใจพองโต ความเหนื่อยล้าก็หายไป ขอบคุณเครือซีพีและซีพีเอฟ รวมทั้งพันธมิตรต่างๆ ที่จัดโครงการครัวปันอิ่มฯ เป็นสะพานบุญ รวบรวมคนที่มีหัวใจจิตอาสาสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน
ทุกเสียงสะท้อนเหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวจากใจในฐานะคนส่งต่อ “ความอิ่มและกำลังใจ” ในโครงการ “ครัวปันอิ่ม ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” ที่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมและชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เราเชื่อว่าการผนึกกำลังของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ จะทำให้คนไทยพร้อมจะสู้ต่อ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้โดยเร็ว./