“เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” กับสนทนาธรรม “ชีวิตที่ประเสริฐ”
พระมหาชาญชัย พฺรหฺมปติฎฺโฐ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพลีลา กรุงเทพฯ สนทนาธรรมในหัวข้อ “ชีวิตที่ประเสริฐ” บนเวทีธรรมบรรยาย “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ”
มนุษย์นั้นเกิดมามีชีวิต แต่ถูกปรุงแต่งทำให้ชีวิตแต่ละคนนั้นต่างกันออกไป เมื่อเกิดมามีชีวิตแล้วจะทำอย่างไรให้ชีวิตมีคุณค่า เป็นชีวิตที่ประเสริฐ พระมหาชาญชัย พฺรหฺมปติฎฺโฐ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพลีลา กรุงเทพฯ ได้เมตตามาชี้แนะในหัวข้อ “ชีวิตที่ประเสริฐ” บนเวทีธรรมบรรยาย “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” จัดโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่
พระมหาชาญชัยได้เกริ่นว่า ชีวิตคืออะไร หลายคนไม่เข้าใจทั้ง ๆ ที่เราใช้ชีวิตมา ผ่านอายุขัยมามาก ชีวิตแต่ละคนแตกต่างกัน มีอายุขัยไม่เหมือนกัน การที่เราอยู่มาถึงวันนี้ชีวิตมีคุณค่ามาก การใช้ชีวิตนั้นยาก เพราะชีวิตเป็นของหนัก เป็นของที่เราต้องรักษา เราต้องมีเครื่องดูแลชีวิต คือ สติ เพราะการรักษาชีวิตนั้นยาก กว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ไม่ง่าย ผ่านอะไรมาบ้างไม่มีใครรู้ได้นอกจากเราเอง การใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพถือว่าเป็นกำไรอย่างมาก

ชีวิตที่ประกอบด้วยธรรมะ เช่น การฟังธรรม คนที่ยิ่งปฏิบัติธรรม คนที่ยิ่งฟังธรรม ก็ยิ่งตระหนัก ทั้ง ๆ ที่ได้ศึกษาเรียนรู้ได้เข้าใจมาก บางคนไม่สนใจเลย บางคนสนใจแล้วสนใจอีกและเพิ่มการฝึกมากขึ้น ถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งไหน เราเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่า ยอมใช้ชีวิตใช้เวลาไปกับสิ่งเหล่านั้นโดยมีความสุขแม้จะยากลำบาก
หลวงพ่อยกตัวอย่างตัวท่านเองนั้นสนใจเรื่องชีวิต ที่เป็นเรื่องร่างกายมากขึ้น จึงเข้าใจว่าคนที่เค้าเสียสละเวลามาบริหารร่างกายแล้วแข็งแรงขึ้น ก็ไม่ได้หยุดบริหารกาย บางครั้งมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะยิ่งออกกำลังร่างกายก็ยิ่งแข็งแรง แต่จะหยุดแค่นั้นไม่ได้เพราะชีวิตยังต้องดำเนินต่อ ชีวิตที่เราสมมติขึ้นมาประกอบไปด้วยขันธ์ 5 ซึ่งเป็นของหนัก และเป็นของรักที่เราหามาด้วยความยากลำบาก ร่างกายของเรา ได้มาลำบาก เพราะร่างกายที่ได้มานี้ได้มาจากพ่อแม่ แม่ตั้งท้อง 9 เดือน กว่าจะเลี้ยงดูจนเติบโตใช้ประโยชน์ได้ กว่าจะคลอดออกมาเราก็ผ่านความลำบากมาหมดแล้ว และกว่าจะมีชีวิตจนถึงทุกวันนี้ได้
เมื่อเราได้ชีวิตมาแล้วต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม เพราะต้นทุนชีวิตสูงมาก บางคนบอกชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว เป็นหนี้เป็นสินมากมาย แต่จริง ๆ ยังมีชีวิตที่ประเมินค่ามิได้ มีชีวิตที่ยังต้องรักษา เมื่อเกิดมาแล้วก็ยังมีคนที่เราต้องดูแล เราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้คุ้มค่า การใช้ชีวิตให้คุ้มค่า คือการได้ฟังธรรม เพื่อให้เกิดปัญญา ปัญญาเป็นสภาวะที่มองไม่เห็น เป็นสภาวะที่เกิดกับจิต เป็นนามธรรม และเป็นส่วนประกอบของขันธ์ 5 การฟังให้เกิดปัญญา เมื่อเรารับข้อมูลเข้ามาได้เกิดปัญญา เกิดกุศล แนวทางที่ดีที่ชี้แนะชีวิตเรา เมื่อรับข้อมูลแล้วจิตเราก็พินิจพิจารณา รู้จักคิด คิดได้ คิดเป็น แล้วใช้การภาวนา คือการปฏิบัติทางกาย วาจา ใจ ฝึกฝนไปจะทำให้รู้ชัดเจนในระดับที่มากขึ้น ซึ่งอาศัยระยะเวลาในการฝึกฝน จนบางคนเข้าใจผิดว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป เพราะใจร้อน เหตุผลนั้นต้องอาศัยปัจจัย และกาลเวลา
ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านเคยใช้ชีวิตประมาทในเรื่องสุขภาพ เรียกได้ว่าเสี่ยงตาย เวลาเราทุกข์มากเราจะเห็นว่าอะไรสำคัญมาก อะไรสำคัญน้อย ท่านเคยไขมันในเลือดสูง เกือบเสียชีวิต เมื่อทุกข์ก็จะเครียด นอนไม่หลับ เศร้า ร้องไห้ ช่วงที่เราอ่อนแอที่สุดก็เป็นช่วงที่เราจะได้เข้มแข็งขึ้น ช่วงที่ท่านรับรู้ว่าอาการป่วยหนักและอาการแย่ก็ร้องไห้ และอ้างว้าง นึกถึงผู้ให้ชีวิต และลุกขึ้นมาแสวงหาทางออก แสงสว่างคือสิ่งที่เป็นธรรมะ จะนำทางเรา
หลวงพ่อได้แบ่งปันว่า ถ้าเราไม่ประสบความทุกข์แสนสาหัส เราจะเลินเล่อ ประมาท ไม่มาฝึกฝนจริงจัง หลังจากนั้นท่านจึงได้ปฏิบัติอย่างจริงจัง มีอยู่ปีหนึ่งประสบอุบัติเหตุ คนขับรถหลับใน แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไร จังหวะที่ใกล้เสียชีวิต ทำให้เราตระหนักถึงความทุกข์ที่อยู่ตรงงหน้า ในขณะนั้นยังเป็นพระหนุ่ม กำลังรุ่ง แต่เมื่อกำลังจะประสบอุบัติเหตุทำให้คิดว่าสิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญ จึงไปเข้าป่าเพื่อฝึกปฏิบัติ พบทุกขเวทนาอย่างหนัก ความรู้สึกเหมือนตกนรก แต่เรามองว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝน
สิ่งที่ธรรมะจะเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นหัวใจในโอวาทปาฏิโมกข์ คือ ขันติ ความอดทน ขันติเป็นตบะ หรือเครื่องเผากิเลส ถ้าไปตามกิเลสง่าย ไม่ต้องทน แต่ต้องฝึกขันติเพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ในระดับการภาวนา ก็จะเกิดความรู้ในระดับฝึกฝน ผิดชอบชั่วดีเราจะรู้ในตอนภาวนา รู้ข้อผิดพลาดในการภาวนาของตัวเราเอง คือข้อ วิมังสา ใน อิทธิบาท 4 การที่ฝึกมาจะรู้ว่าสิ่งใดเอื้อ สิ่งใดขัดขวาง การฝึกจริงจึงจะเข้าใจ ประการสุดท้ายยากสุดคือ การเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นสิ่งที่ยากที่สุด คือการหมดกิเลสและถึงพระนิพพาน
ชีวิตที่ประเสริฐ เราพิจารณาว่าชีวิตของเราประเสริฐแล้ว คือ 1. เรามีชีวิตอยู่ 2. ดำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ 3. ได้ฟังธรรม 4. ได้ปฏิบัติ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เรามีชีวิตที่ประเสริฐต่อผู้อื่น ต่อสังคมอย่างไร เราต้องรู้จักความรัก หรือความเมตตาความปรารถนาดี ถ้าเราปรารถนาดีต่อตัวเราและแผ่ไปให้ผู้อื่น เมื่อเรารักตนเองได้ เราก็รักผู้อื่นได้ แต่ก่อนที่จะแผ่ให้ผู้อื่นเราต้องเข้มแข็งก่อน มนุษย์เรามักไม่ยอมรับว่าขันธ์ 5 ไม่ใช่ของเรา เรารับไม่ได้ไม่ยอมรับ รูป ร่างกายเราย่อมเสื่อมถอย เวทนา คือทุกข์ความรู้สึกทุกข์ เวลาเรารับวิบากทุกข์ ทางกาย เช่น แอร์เสีย ไฟดับ เวทนาทางกาย เจ็บปวด ร้อน สิ่งนั้นคือเวทนาทางกาย ก็เกิดการปรุงแต่ง เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราต้องยอมรับให้ได้ การปรุงแต่ง สังขารเป็นตัวปรุงแต่งให้ทุกข์ขยายไม่จบสิ้น ชีวิตเราต้องปรุงอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้อย่าปรุงมาก ถ้ามีสติในการปรุงไม่ยึดติดก็จะเรียบง่าย สัญญา คือความจำ สัญญา ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สิ่งที่เราจำได้ บางทีก็ไม่อยากจำ ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราต้องมีสติปัญญาพิจารณาเพื่อปล่อยวาง เพราะชีวิตเราเป็นกองแห่งทุกข์ ถ้ามีสติ มีปัญญา
ท่านเล่าว่าครั้งหนึ่งได้ไปบิณฑบาต เมื่อกลับมาได้ฉันน้ำขวดหนึ่ง เมื่อฉันแล้ว ปรากฎว่าฟองเต็มปาก ในจังหวะนั้นจิตปรุงแต่งว่าเป็นยาพิษ หรือเป็นสารพิษ ท่านก็ไปโรงพยาบาล จิตปรุงว่าพิษแล่นเข้าสู่ร่างกาย จิตเราดิ้น เรากลัวตาย รู้สึกไม่ปลอดภัยแสบลำคอ เมื่อถึงโรงพยาบาล ก็ปรุงแต่งไปเรื่อย หมอค่อย ๆ ให้นอนที่เตียง และตรวจอะไรต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่ท่านสังเกตได้ ท่านหยิบโทรศัพท์ และโทรไปหาโยมแม่ จิตก็สงบลง สติเริ่มกลับมา จิตนิ่งลงไม่ทุรนทุราย และผ่านวิกฤตนั้นมาได้ เมื่อไปสืบจากผู้ถวายดู ปรากฎว่าเป็นสบู่มะขามแต่ไม่ได้ติดฉลาก ผู้ถวายได้แจ้งตั้งแต่ตอนถวายแล้ว แต่ท่านได้ยินว่าโยมถวายน้ำขิงมา ก็เป็นบทเรียนทั้งเขาและเรา เราต้องวางใจให้เป็นอุเบกขา เมื่อเราปรุงแต่งไปในทางมัวหมองเราจะมัวหมองเอง ต้องตั้งใจเราให้มีอุเบกขาทัน
ท่านทิ้งท้ายว่า ชีวิตเราจะประเสริฐได้ เราต้องมีความเกื้อกูลกรุณา ดีใจไปกับคนอื่น หรือมุทิตา เหล่านี้เป็นธรรมของผู้ประเสริฐ เมื่อชีวิตประเสริฐแม้เพียงวันเดียว นาทีเดียว ก็ถือว่าชีวิตนั้นมีคุณค่ามาก โลกใบนี้จะน่าอยู่ ชีวิตของเรา ทำหน้าที่ดูแลให้คุ้มค่าให้เจริญ

พบกับเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ในหัวข้อ “พิชิตความสุข” โดย พระครูสิริธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดละหาร จ.นนทบุรี ผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 เวลา 12:00-13:30 น. และสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน พร้อมรับฟังคติธรรมดี ๆ ในช่องทาง TikTok ได้ที่ ธรรมะ TikTok
#เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ #ธรรมะTikTok
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย