“Dream a Little Dream” นิทรรศการเล่าความฝันในวัยเด็กของ 6 ศิลปินรุ่นใหม่
“Dream a Little Dream” นิทรรศการเล่าความฝันในวัยเด็กของ 6 ศิลปินรุ่นใหม่ ที่อยากส่งต่อแรงบันดาลใจ และชวนทุกคนกลับไปค้นหาความฝันของตัวเอง
เวลานี้ ห้องสตูดิโอสีขาวขนาดย่อมของทรู ดิจิทัล พาร์ค อัดแน่นไปด้วยความฝันของศิลปินรุ่นใหม่ 6 คน ที่แม้มีสไตล์ผลงานที่แตกต่างกัน แต่มารวมตัวกันเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจด้วยงานศิลปะ ในนิทรรศการ “Dream a Little Dream” ที่พาทุกคนย้อนเวลากลับไปรำลึกถึงความสุขและความฝันอันไร้ขอบเขตในวัยเด็ก และชวนให้เราลองหยุดคิดว่า ความหลงใหลใฝ่ฝันในวัยนั้นได้จางหายไป หรือเราทำฝันเหล่านั้นให้เป็นจริงได้แล้ว
ผู้อยู่เบื้องหลังงานนิทรรศการครั้งนี้ คือ Madskills แกลเลอรี่สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่ทำหน้าที่เสาะหา คัดสรร และจัดแสดงงานของศิลปิน โดยเน้นงานด้าน Pop Art และ Contemporary Art ทั้งในไทยและต่างประเทศ และอาจเรียกได้ว่า Madskills เองก็ก่อร่างสร้างขึ้นจากความฝันของ พิชย วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเช่นกัน
“จริงๆ แล้วผมเป็นวิศวกรขุดเจาะน้ำมัน ที่ได้เข้ามาทำงานในแวดวงของ Tech และธุรกิจ แต่โดยส่วนตัวชอบถ่ายรูปมาก ถึงขนาดเคยจัดแสดงงานภาพถ่ายของตัวเองมาแล้ว ในช่วงโควิดที่ไปเที่ยวถ่ายรูปที่ไหนไม่ได้ ผมจึงเริ่มสะสมงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ สุดท้ายก็ทำให้ความฝันของการมีแกลเลอรี่ของตัวเองให้เกิดขึ้นจริงก่อนไปถึงวัยเกษียณ นิทรรศการนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของ Madskills แล้ว” พิชย กล่าว
นิทรรศการ Dream a Little Dream จัดขึ้นในพื้นที่สานต่อความฝันของศิลปินให้เป็นจริง ในห้อง Studio 2 บนชั้นสองของทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ และเปิดเข้าชมฟรีทุกวัน โดยเป็นความตั้งใจที่จะให้ผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ผ่านมาได้เข้ามาชื่นชมงานศิลปะอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันก็เป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพในด้าน Art & Culture และส่งเสริมงานของศิลปินและครีเอเตอร์รุ่นใหม่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรู ดิจิทัล พาร์คทำมาอย่างต่อเนื่อง
ก่อนเดินทางไปชมงานนิทรรศการ ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 6 ศิลปินให้มากขึ้น ผ่านตัวตน เรื่องราวความฝัน และแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อส่งต่อความหมายของการมีฝันให้กับทุกคน
1. หูยาว (HUUYAOW)
“ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกฝันสำเร็จ แต่ขอให้จับสักฝันให้แน่น แล้วทำให้เป็นจริง”
ปิ๊ง – มัณฑนา เลิศกรกิจจา หรือศิลปินที่รู้จักในชื่อของ หูยาว ชื่อนี้มาจากตุ๊กตากระต่ายที่เธอรักมากในวัยเยาว์ และเป็นตัวแทนความกล้าหาญและความอยากรู้อยากเห็นที่เธอมีในวัยนั้น ผลงานจึงโดดเด่นด้วยคาแรกเตอร์เด็กผู้หญิงหูยาวสีส้มอยู่ท่ามกลางฉากความฝันที่นำเสนอผ่านภาพก้อนเมฆ ดวงจันทร์ และกลุ่มดาว
งานที่จัดแสดงนับเป็นงานเพ้นท์อะคริลิคบนแคนวาสครั้งแรกของปิ๊ง จากที่ก่อนหน้านี้ทำงาน Digital Art มาตลอด เธอเล่าว่า 12 ชั่วโมงก่อนส่งงานเรื่องไม่คาดฝัน ขณะที่รอให้สีเคลือบชิ้นงานแห้งสนิทเกิดมีฝุ่นพัดเข้ามาทำให้ชิ้นงานมีส่วนเสียหาย เธอต้องรีบลงมือแก้ไขให้ทันเวลา แต่ที่ทำได้สำเร็จก็เพราะมีหูยาวคอยบอกว่า อย่ากลัวที่จะลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง
2. ฉ่อกุง (CHORKUNG)
“แม้ว่าฝันในวัยเด็กอาจไม่ถึงเส้นชัย แต่ความฝันเล็กๆ เหล่านั้นได้มาเป็นส่วนหนึ่งของเราในวันนี้”
กุง – ศศิวิมล สุนทรวิกรานต์ เจ้าของนามปากกา ฉ่อกุง ศิลปินที่เคยวาดภาพประกอบหนังสือเด็กกว่า 20 เล่ม ผลงานของเธอเล่าถึงความฝันและความสุขในวัยเด็กผ่านคาแรกเตอร์ Red Loving Wolf ที่ประกอบด้วยสองตัวละครหลักคือ Rinny Red หนูน้อยหมวกแดง และ Milo หมาป่า ไม่ว่าจะเป็นการชิมไอศครีมรสชาติใหม่ ไปจนถึงการฝึกเล่นกีตาร์เพื่อตามความฝันที่อยากเป็นนักดนตรี
เธออยากให้ผลงานที่มีความสดใสเป็นตัวแทนที่ชวนให้ทุกคนกลับไปทำสิ่งเล็กๆ ที่แสนสนุกในวันวาน หรือหวนคิดถึงความฝันที่อาจไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็เคยมอบความสุขให้ในเวลานั้น เพราะเธอว่า เชื่อว่าทุกความฝันที่เคยมีได้หลอมรวมกลายมาเป็นตัวตนของเราในวันนี้
3. น้อยหน่า (NoiNah)
“ความฝันคือสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต ทำให้อยากตื่นขึ้นมาแล้วมีลมหายใจ เพื่อทำสิ่งที่ฝันต่อไปเรื่อยๆ ”
น้อยหน่า – สุริยา อุทัยรัศมี อดีตนักเขียนการ์ตูนขำขันในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ ต่อมาได้ผันตัวมาเป็นเจ้าของสตูดิโอและแกลเลอรี่เล็กๆ ในชุมชนเก่าริมแม่น้ำจันทบุรี ผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้ เขาสร้างสรรค์ผ่านลายเส้นปากกา สีน้ำ และสีอะคริลิค โดยสร้างนัยยะผ่านการเล่นกับประเภทของสี ส่วนที่มีสีสันเด่นชัดจากการฉาบทาด้วยสีอะคริลิคแสดงถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนที่ฟุ้งจางของสีน้ำคือตัวแทนของ ความฝัน ซึ่งทั้งสองสิ่งนั้นอยู่ร่วมกันได้เสมอ
เขาหวังว่าผลงานชุดนี้จะเป็นกุญแจให้ผู้ชมกลับไปไขลิ้นชักความทรงจำ รื้อค้นความฝันมาปัดฝุ่นอีกครั้ง และหากใครสักคนได้เข้ามาชมผลงาน แล้วเกิดมีเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันผลิบานในใจ ได้กลับไปจำความฝัน หรือเริ่มต้นทำในสิ่งที่เคยหลงลืมไป ก็ถือว่างานได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว
4. Humbly
“ไม่สายเกินไปที่จะลองทำตามความฝัน แม้จะก้าวไปได้อย่างช้าๆ แต่ก็เป็นความก้าวหน้าที่พาไปสู่ความจริง”
Humbly คือชื่อที่รู้จักกันดีของ Bryan Reynald C. Antonio นักวาดภาพประกอบชาวฟิลิปปินส์ ที่ในวัยเด็กหลงใหลในเรื่องราวแฟนตาซีของการเดินทางไปยังดินแดนต่างโลก ต่างมิติ และย้อนไปในอดีต จากจินตนาการอันไร้ขอบเขตกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงาน โดยนำองค์ประกอบจากวัฒนธรรมป๊อบยุค 90 ของนิยายวิทยาศาสตร์ การ์ตูน และของเล่นมาผสานรวมกัน
ผลงานเหล่านี้พาเขาโลดแล่นไปแสดงงานยังต่างประเทศได้ดังความฝันในวัยเยาว์ ที่ผ่านมา Byan เคยจัดแสดงผลงานในนิทรรศการที่สหรัฐอเมริกา โตเกียว ปารีส และเคยจัดแสดงงานเดี่ยวในเมืองสำคัญ เช่น เซี่ยงไฮ้ ลอนดอน สิงคโปร์ และที่กรุงเทพมหานครในเวลานี้
5. Jmons
“เส้นทางสู่ความฝัน อาจมีเรื่องท้าทาย แต่ขอให้มีความเชื่อมั่นและลงมือทำอย่างเต็มที่”
Jmons คือนามปากกาของ ตุ่ย – บุญสิทธิ์ อยู่ถาวร ศิลปินชาวไทยที่เติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับศิลปะ เขาจึงได้ฝึกฝนทักษะงานศิลป์มาตั้งแต่เด็ก โดยมีสีเป็นเครื่องมือสุดโปรดปราน ผลงานของเขาโดดเด่นด้วยการผสมผสาน Abstract Art ผ่านการวาดและสาดสี เข้ากับคาแรกเตอร์ STARBUZZ ที่สะท้อนถึงความสนุกสนานและความหวังในชีวิตประจำวัน
ผลงานในครั้งนี้เขาตั้งใจที่จะมอบความสุขและแรงบันดาลใจผ่านความงามและความหมายที่ซ่อนอยู่ในแต่ละสีและรูปทรง และอยากใช้งานศิลปะเชื่อมโยงผู้คนให้มองเห็นโลกในแง่มุมที่แตกต่างและหลากหลายมากขึ้น
6. Wood You Mind
“เพราะมีฝันที่หลากหลาย ทำให้เปิดกว้างต่อทุกสิ่ง และสร้างสรรค์งานแบบไม่มีข้อจำกัด”
Wood You Mind คือชื่อที่คนรู้จัก ป่าน – อนิวรรต อัครสุทธิกร ศิลปินที่เชี่ยวชาญการแกะสลักไม้ ที่มีจุดเริ่มต้นจากการที่รอซ่อมเตาเซรามิกที่ใช้ทำงาน ทำให้เขาลองแกะสลักไม้เพราะคิดถึงช่วง ม.ปลายที่เคยแกะสลักดินสอเป็นสโนว์แมน ในที่สุดเขาหันมาทำงานแกะสลักไม้ตั้งแต่ปี 2019 ก่อนย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2020
สำหรับนิทรรศการนี้ ป่านได้ส่งผลงานมาร่วมแสดงทั้งภาพวาดบนผ้าใบและงานแกะสลักไม้ โดยต้องวางแผนเวลาทำงานล่วงหน้าอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากเป็นขนส่งทางเรือที่ใช้เวลานาน ผลงานทั้งหมดตั้งใจถ่ายทอดความฝันในมุมมองของความปรารถนาดีกับสิ่งที่เคยพลาด หลงลืม หรือไม่ได้สานต่อ โดยมอบความรู้สึกเป็นมิตร ไม่ได้บอกเล่าสิ่งใดตายตัว เพราะอยากเป็นผู้ฟังหรือกระจกสะท้อนให้กับผู้ชมงานได้ตั้งคำถามหรือระบายความรู้สึก
_________
นิทรรศการ “Dream a little Dream” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 22 กันยายน 2567 ณ TDPK Studio 2 ชั้น 2 ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ (BTS ปุณณวิถี) เปิดให้เข้าชมนิทรรศการทุกวัน เวลา 11.00 – 19.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.truedigitalpark.com
####
อ่านบน True Blog: https://true.th/blog/tdpk-dream-a-little-dream/
_____