SCGC รุกต่อเนื่อง ลุยเสริมแกร่ง ลดต้นทุน LSP เวียดนาม ด้วยก๊าซอีเทน
SCGC รุกต่อเนื่อง ลุยเสริมแกร่ง ลดต้นทุน LSP เวียดนาม ด้วยก๊าซอีเทน
ล่าสุด เดินหน้าสำเร็จอีกขั้น ประกาศล็อกเรือขนส่งครบตามแผน เพิ่มความมั่นคงด้านการขนส่งก๊าซอีเทนระยะยาว

กรุงเทพฯ – 18 มีนาคม 2568 เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC เผยถึงความรุดหน้าของโครงการเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบด้วยก๊าซอีเทนที่โรงงาน LSP หรือ ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ ประเทศเวียดนาม (โครงการ LSPE) ล่าสุด ได้ลงนามสัญญาเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทน (Very Large Ethane Carriers: VLECs) จากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศเวียดนามเป็นเวลา 15 ปี เพิ่มอีกจำนวน 2 ลำ รวมทั้งสิ้น 5 ลำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงในการรองรับการขนส่งก๊าซอีเทนปริมาณ 1 ล้านตันต่อปีของโครงการในระยะยาว เชื่อมั่นการใช้ก๊าซอีเทนเป็นวัตถุดิบทางเลือกจะช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันด้านต้นทุนวัตถุดิบให้กับ LSP ในระยะยาว พร้อมทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จปลายปี 2570 รับการฟื้นตัวของตลาดปิโตรเคมีในภูมิภาค

นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC เผยถึงความคืบหน้าล่าสุดของโครงการ LSPE ว่า “SCGC ได้ลงนามในสัญญาระยะยาวสำหรับเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทน (Very Large Ethane Carriers: VLECs) กับกลุ่มบริษัท Mitsui O.S.K. Lines (MOL) ผู้ให้บริการเรือขนส่งวัตถุดิบก๊าซธรรมชาติเหลวชั้นนำของโลก เพิ่มอีกจำนวน 2 ลำ รวมทั้งหมด 5 ลำ จากรอบแรกเมื่อเดือนมกราคม 2568 จำนวน 3 ลำ ซึ่ง MOL จะให้บริการขนส่งก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศเวียดนามเป็นเวลา 15 ปี ทั้งนี้ การเพิ่มจำนวนเรือขนส่งให้ครบ 5 ลำ เป็นไปตามกลยุทธ์ด้านการสร้างห่วงโซ่อุปทานของโครงการ LSPE เพื่อเพิ่มศักยภาพและลดความเสี่ยงด้านการขนส่งในระยะยาว”
“สำหรับห่วงโซ่อุปทานของการนำเข้าก๊าซอีเทนให้กับโรงงาน LSP ประกอบด้วย 1) สัญญาซื้อขายอีเทนและท่าเรือส่งออก 2) สัญญาเช่าเหมาลำเรือขนส่งก๊าซอีเทน (VLECs) จำนวน 5 ลำ และ 3) สัญญาการออกแบบ จัดหา และก่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะสำหรับบรรจุก๊าซอีเทน โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้งหมด และพร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าในขั้นตอนต่อ ๆ ไป” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC กล่าว

“โครงการ LSPE มีการลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากแหล่งเงินทุนภายใน SCG โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการก่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบ ทั้งนี้ โรงงาน LSP ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบก๊าซอยู่แล้ว จึงสามารถปรับปรุงโรงงานให้ใช้วัตถุดิบก๊าซอีเทนได้ทันที โดยโรงงาน LSP เวียดนาม ถือเป็นแห่งแรกในอาเซียนที่นำก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกามาใช้เป็นวัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญกว่า 30% เมื่อเทียบกับราคาแนฟทาในปัจจุบัน ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC กล่าวทิ้งท้าย
………………………………………………..
เกี่ยวกับ SCGC
เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน มีฐานการผลิตหลัก 3 ประเทศ ได้แก่ ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ขั้นต้น (โอเลฟินส์) ไปจนถึงขั้นปลาย ประกอบด้วย เม็ดพลาสติกหลัก 3 ประเภท คือ พอลิเอทิลีน (PE) พอลิโพรพิลีน (PP) และ พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) มุ่งสร้างสรรค์ “นวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อทุกความเป็นได้” (INNOVATION THAT’S REAL) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ตามแนวทาง ESG โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA : High Value Added Product & Service) รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง Low Waste, Low Carbon อาทิ นวัตกรรมพอลิเมอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Green Polymer ภายใต้แบรนด์ SCGC GREEN POLYMERTM ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ตอบรับเมกะเทรนด์ ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐาน บรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ และโซลูชันด้านพลังงาน ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน – ข้อมูลเพิ่มเติม www.scgchemicals.com
เกี่ยวกับ LSP
บริษัท ลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC โดย LSP เป็นโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในประเทศเวียดนาม ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีมาตรฐานการผลิตเทียบเท่าระดับโลก ทั้งการผลิตพอลิโอเลฟินส์ คลังเก็บเคมีภัณฑ์ และระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในประเทศเวียดนาม ช่วยลดการนำเข้า พร้อมทั้งส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมปลายน้ำ ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน – ข้อมูลเพิ่มเติม www.lsp.com
เกี่ยวกับ Mitsui O.S.K. Lines
Mitsui O.S.K. Lines, Ltd. เป็นบริษัทขนส่งชั้นนำ ที่มีการดำเนินงานระดับโลกด้วยเรือประมาณ 900 ลำ และ ได้พัฒนาธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยมีธุรกิจหลัก ได้แก่ การขนส่งทางทะเล เทคโนโลยีและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริการเรือของ MOL ประกอบด้วยเรือบรรทุกสินค้าแห้ง เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เรือบรรทุกยานยนต์ และเรือบรรทุกน้ำมัน นอกจากธุรกิจขนส่งแบบดั้งเดิมแล้ว MOL ยังให้บริการทางธุรกิจด้านความเป็นอยู่และไลฟ์สไตล์ เช่น อสังหาริมทรัพย์ การดำเนินงานท่าเรือ และบริการเรือเฟอร์รี่ รวมถึงธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โลจิสติกส์และพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOL สามารถดูได้ที่ https://www.mol.co.jp/en/
______